เหล็กเส้นกลม 2หุน 3หุน 4หุน

คุณสมบัติสินค้า:

เหล็กเส้นคือ เหล็กที่มีรูปร่างเป็นเส้นยาว ๆ ซึ่งสามารถเห็นได้ในหลายๆ งานก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่าง ๆ เหล็กเส้นมีข้อดีในเรื่องของความแข็งแรงและความทนทาน ทำให้ได้รับความนิยมในการใช้สร้างอาคาร, ถนน, สะพาน และส่วนต่าง ๆ ของโครงสร้างที่ต้องการความคงทน

Share

เหล็กเส้น คืออะไร?

เหล็กเส้น คือวัสดุก่อสร้างที่มีรูปทรงเป็นเส้นแบนหรือกลม มีลักษณะยืดยาว ทำจากเหล็กคาร์บอนหรือเหล็กกล้า มักใช้ในงานก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น งานเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้าง งานติดต่อส่วนต่อ งานผลิตเครื่องกล และงานในโรงงานผลิตอุตสาหกรรมที่ต้องการความแข็งแรง

เหล็กเส้นมีหลายประเภท ด้วยความต่างของส่วนผสม การประมวลผลทางความร้อน และวิธีการผลิต ตัวอย่างของเหล็กเส้นมีดังนี้

1.เหล็กเส้นก่อสร้าง (Rebar) ใช้เป็นวัสดุเสริมความแข็งแกร่งในงานคอนกรีต เพื่อเพิ่มความแข็งแรงต่อแรงดึงและความยืดหยุ่น
2.เหล็กเส้นกลม (Round Bar) มีรูปทรงกลมทั้งหมด ใช้ในงานเชื่อมต่อโครงสร้าง, การผลิตเครื่องกล, และงานประดับต่างๆ
3.เหล็กเส้นแบน (Flat Bar) มีรูปทรงแบน ใช้ในงานโครงสร้าง, การผลิตเครื่องกล, และงานตกแต่ง
4.เหล็กเส้นพิเศษ (Special Bar) อาจมีการปรับแต่งรูปทรง, ความแข็ง, หรือคุณสมบัติอื่นๆ ตามความต้องการของงาน
เหล็กเส้นมีขนาดและคุณสมบัติที่หลากหลาย ต้องเลือกใช้ตามความเหมาะสมกับงานและโหลดที่ต้องรับได้ มักจะมีการผลิตตามมาตรฐานที่ประจำการ เช่น ASTM, JIS, หรือ TIS

เหล็กเส้น

เหล็กเส้นกลม คืออะไร?

เหล็กเส้นกลม (Round Bars) คือ ชิ้นส่วนของเหล็กที่มีรูปทรงเป็นเส้นยาวและมีด้านตัดทรงกลม เหล็กเส้นกลมมีความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง จึงนิยมนำไปใช้ในงานก่อสร้าง อุตสาหกรรม และการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ มากมาย

เหล็กเส้นกลมมักจะผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่กำหนดขนาด ความทนทาน และคุณสมบัติเฉพาะเช่น ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และความทนทานต่อการกัดกร่อน เหล็กเส้นกลมสามารถนำไปใช้ในงานก่อสร้างที่รับแรงไม่มากนัก หรือใช้ในงานทำปลอกเสา ปลอกคาน และอื่น ๆ ในงานก่อสร้างโดยไม่เน้นงานยึดเกาะ เช่น ปูน เนื่องจากลักษณะผิวเรียบมนที่ทำให้ยึดเกาะปูนไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ ยังนิยมใช้ในงานกลึง เช่น การกลึงหัวน๊อตต่าง ๆ

เหล็กเส้นกลม ขนาดมีเท่าไหร่บ้าง?

1.RB6 (ขนาด 2 หุน) - สำหรับงานก่อสร้างที่ไม่มีการรับแรงมากนัก เช่น ปอกเสา หรือปอกคาน
2.RB9 (ขนาด 3 หุน) - มีลักษณะใช้งานคล้ายกับ RB6 สำหรับงานก่อสร้างที่ไม่รับแรงมาก
3.RB12 (ขนาด 4 หุน) - ใช้สำหรับงานก่อสร้างทั่วไป แต่ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องยึดเกาะปูน นิยมนำไปใช้กับงานกลึง เช่น กลึงหัวน็อต
4.RB15 (ขนาด 15 มม.) - นำไปใช้เป็นเหล็กสตัท เกรียวเร่ง ในงานยึดโครงป้ายขนาดใหญ่ สามารถรับแรงและน้ำหนักได้ดี
5.RB19 - ใช้สำหรับงานก่อสร้างถนน
6.RB25 - มีความสามารถในการรับแรงและน้ำหนักสูง เหมาะสำหรับงานโครงสร้างขนาดใหญ่
ข้อควรระวังในการเลือกใช้เหล็กเส้นกลม คือ หากมีงานที่ต้องการให้เหล็กยึดเกาะปูน ควรพิจารณาใช้เหล็กเส้นกลมที่มีลักษณะของผิวเรียบมน เพราะเหล็กเส้นกลมอาจไม่ให้การยึดเกาะที่ดีที่สุด สำหรับงานที่ต้องการความเหนียวและความยึดเกาะสูง ควรพิจารณาเลือกเหล็กเส้นเพียงพอกับความต้องการของงาน โดยอาจพิจารณาเหล็กเส้นเพียงพอกับความต้องการของงาน โดยอาจพิจารณาเหล็กเส้นเพียงพอกับความต้องการของงาน
เหล็กเส้นกลม

เหล็กเส้นกลม คุณสมบัติเป็นอย่างไร?

เหล็กเส้นกลม (Round Bars) มีคุณสมบัติเฉพาะที่ทำให้เหมาะสำหรับงานก่อสร้างและการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ดังนี้:

1.ความแข็งแรง: เหล็กเส้นกลมมีความแข็งแรงในระดับหนึ่ง ทำให้สามารถรับแรงกด ดึง และโค้งได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถทนทานต่อความเค้นและแรงกระแทก
2.ความยืดหยุ่น: เหล็กเส้นกลมมีความยืดหยุ่นที่ดี สามารถโค้งงอ หรือยืดตัวได้ในระดับหนึ่งโดยไม่ทำลายโครงสร้างของเหล็ก
3.ตัดและเชื่อมง่าย: เหล็กเส้นกลมสามารถตัด ขัด หรือเชื่อมต่อกันได้ง่าย ทำให้สามารถปรับขนาด รูปทรง และควบคุมคุณภาพของงานก่อสร้างหรือการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ
4.ความทนทานต่อการกัดกร่อน: เหล็กเส้นกลมมีความทนทานต่อการกัดกร่อนในระดับหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของเหล็กและการป้องกันสนิมที่มีอยู่ นำไปใช้งานในบางสถานการณ์ที่มีความชื้นหรือความเค็มสูงได้
5.ทนทานต่ออุณหภูมิสูง: บางชนิดของเหล็กเส้นกลมสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูง ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการควมควบคุมอุณหภูมิ หรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง
6.ความสามารถในการประกายไฟฟ้า: เหล็กเส้นกลมเป็นวัสดุที่นำไฟฟ้าได้ดี ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการนำไฟฟ้าหรือใช้เป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า
7.ความเหมาะสมกับงานเครื่องกล: เนื่องจากคุณสมบัติด้านความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และทนทานต่อการกัดกร่อน เหล็กเส้นกลมนิยมใช้ในงานเครื่องกล เช่น การผลิตเพลา ส่วนขับเคลื่อน และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทาน
8.งานตกแต่งและงานศิลปะ: เหล็กเส้นกลมยืดหยุ่นและเปลี่ยนรูปได้ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับงานตกแต่ง งานประติมากรรม หรืองานศิลปะที่ต้องการความสวยงาม และความปรับตัวตามรูปทรงต่าง ๆ
9.การผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรม: ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับงานก่อสร้าง และความสามารถในการปรับขนาดและรูปทรง หลายอุตสาหกรรมเลือกใช้เหล็กเส้นกลมในการผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ
10.งานระบบรางน้ำ: เหล็กเส้นกลมใช้ในการผลิตและติดตั้งระบบรางน้ำ ซึ่งต้องทนทานต่อสภาพอากาศและความชื้น
11.งานควบคุมการจราจร: เหล็กเส้นกลมนิยมใช้ในการผลิตและติดตั้งสัญญาณจราจร เช่น ป้ายจราจร และแท่นสำหรับติดตั้งกล้องวงจรปิด
12.การผลิตเฟอร์นิเจอร์: เหล็กเส้นกลมใช้ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เช่น โครงเตียง โครงเก้าอี้ และโครงโต๊ะ เพื่อให้ทนทาน แข็งแรง และมีความยืดหยุ่นที่เหมาะสม
13.งานท่องเที่ยวและกีฬา: เหล็กเส้นกลมนิยมใช้ในการผลิตและติดตั้งอุปกรณ์กีฬาและสถานที่ท่องเที่ยว เช่น โครงสร้างสนามเด็กเล่น อุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ
14.งานแต่งตั้งในอาคาร: เหล็กเส้นกลมเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับงานแต่งตั้งในอาคาร เช่น ราวบันได และราวกันตก
15.งานพื้นผิวถนน: เหล็กเส้นกลมใช้ในการผลิตและติดตั้งชิ้นส่วนตัวบ่อน้ำ รางน้ำ และตัวกันสายตาบนถนน ซึ่งต้องทนทานต่อความเค้นและการกระแทกจากยานพาหนะ
16.งานยกระดับและย้าย: เหล็กเส้นกลมนิยมใช้ในการผลิตและติดตั้งอุปกรณ์ยก ย้าย หรือระบบลากดึง เช่น กระบอกลาก และเครน
17.งานรั้วและประตู: เหล็กเส้นกลมใช้ในการผลิตรั้ว ประตู และช่องเข้า-ออก ที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน และมีความสวยงาม

 เหล็กเส้น ราคา

สนใจสั่งซื้อเหล็กเส้น ราคาส่ง ติดต่อได้ทาง

โกดังเหล็ก ราชบุรี

92/17 ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง ราชบุรี 70110

Tel : 089-119-9919

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้